ชีวิตคู่ จะปังหรือจะพัง ขึ้นอยู่กับอะไร
ชีวิตคู่ของคนสองคน จะปังหรือจะพัง เริ่มต้นที่ความรักของคน 2 คน ซึ่งในยุคปัจจุบัน เราต้องยอมรับว่า ความรักของคน 2 คนนั้น ไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่เรื่องเพศ ชายกับหญิง อีกต่อไปแล้ว และไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศสภาพร่างกายภายนอกด้วยเช่นกัน แต่หากเป็นความรู้สึกความสัมพันธ์ภายในจิตใจที่มีให้แก่กัน และที่สำคัญหากชีวิตคู่นั้นได้อยู่เคียงคู่กันตราบช่วงชีวิตที่มีอยู่ก็คงจะมีความสุขอบอุ่นไม่น้อย
การมีชีวิตคู่ที่ดี ไม่มีเรื่องทะเลาะกัน เข้าอกเข้าใจกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทุกคนรู้และเข้าใจ แต่เพราะเหตุใดถึงยังมีปัญหาชีวิตคู่กันอยู่ มีเรื่องให้ทะเลาะกันอยู่เรื่อย เสียใจ น้อยใจ เข้าใจผิดกันตลอด
ทั้งที่แท้จริงแล้ว ณ วันที่คน 2 คน ได้ตกลงใจเป็นคนรักกัน ต้องการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน วันนั้นถือเป็นวันที่ทั้งคู่เป็นคนที่สมบูรณ์พร้อมสำหรับกันและกันแล้ว ทั้งคู่ยอมรับซึ่งกันและกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อดีหรือข้อเสีย ที่ทุกคนต่างก็มีความสมบูรณ์และไม่สมบูรณ์กันทุกคน และวันนั้นเองเป็นวันที่ทั้งคู่เลือกตัดสินใจแล้วว่า เราจะใช้ชีวิตอยู่คู่กัน เรามีความเชื่อมั่นไว้เนื้อเชื่อใจให้แก่กันอย่างเต็มที่แล้ว ดังนั้นระดับคะแนนความรักที่ให้กันได้ถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทั้งคู่คือตัวแทนความสมบูรณ์แบบของความรักให้กันและกัน ที่จะต้องยึดมั่นดูแลใส่ใจรักษาความรักระหว่างกันให้มั่นคงยั่งยืนตลอดไป ยืนหยัดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งคู่จะมีหลักหมุดของความรักร่วมกัน ที่จะก้าวข้ามผ่านทุกปัญหาและอุปสรรคไปด้วยกัน จะปังหรือจะพังอยู่ที่2คน
ปัญหาในชีวิตคู่ที่พบได้บ่อย ตามระดับความรุนแรงมีอะไรกันบ้าง
- ทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน ไม่ยอมให้กัน อารมณ์เสียใส่กัน แม้เพียงเรื่องเล็กน้อย
- เมื่อทะเลาะกันก็ไม่พูดคุยกัน บ่อยปัญหาให้ค้างคาอยู่ภายในใจ รอวันที่จะระเบิดออกมา
- เมื่ออยู่ด้วยกันเริ่มไม่มีความสุข เริ่มเปิดโอกาศแห่งการเลิกลา ด้วยการแยกกันอยู่ แยกกันใช้ชีวิต
- เมื่อแยกกันอยู่ ความผูกพันธ์ทางร่างกายและจิตใจยิ่งลดลง เพราะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
- เมื่อไม่ได้มีการแสดงความรักต่อกัน อีกฝ่ายอาจจะไปมีความสัมพันธ์กันคนอื่น หรือยินดีที่จะอยู่คนเดียว
อารมณ์ความรู้สึกของฝ่ายหญิง
-จะรู้สึกมีความต้องการในสิ่งที่อยากได้รับหรือเคยได้รับ อยู่เสมอตลอดชีวิต รู้สึกว่าไม่พอโดยไม่รู้ตัว
-มีความต้องการอยากเป็นที่รัก เป็นคนที่ถูกรัก ให้ความสำคัญอยู่เสมอ และต้องแสดงออกให้รู้
-มีความกลัวเป็นของตนเอง ยิ่งเคยมีประสบการณ์ความกลัวกับเรื่องใด ก็จะกลัวและกังวลเป็นพิเศษ
-ฝ่ายหญิงจะพ่ายแพ้ต่อความเป็นชาย ที่มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ จริตเล็กๆของผู้ชายมีเสน่ห์เสมอ
-ต้องการกำลังใจ ต้องการคำชื่นชม ด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่หวังดี อ่อนโยน ดูอบอุ่น
-ไม่ชอบถูกเปรียบเทียบในสิ่งที่ตนเองควรมีแต่ยังทำได้ไม่สำเร็จ เช่น การลดความอ้วน
อารมณ์ความรู้สึกของฝ่ายชาย
-จะรู้สึกมีความต้องการอยากจะเป็นผู้นำ อยากมีความภาคภูมิใจในตนเอง ว่าดูแลครอบครัวได้ อยากทำใหดี แต่เมื่อทำได้ไม่ดีพอ ก็จะรู้สึกโทษตนเอง ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่ส่งผลดีต่อมาในอนาคตได้
-มีความต้องการอยากเป็นหัวหน้าครอบครัว มีคนคอยดูแลความเรียบร้อยเรื่องต่างๆให้ จะรู้สึกดี
-ทำไมเรายังไม่เคยดีพอสำหรับอีกฝ่ายเลย
- ฝ่ายชายจะพ่ายแพ้ต่อความเป็นผู้หญิง ที่มีความน่ารัก ขี้อ้อน จริตเล็กๆของผู้หญิงมีเสน่ห์เสมอ
-ต้องการกำลังใจ ต้องการคำชื่นชม ด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่หวังดี อ่อนโยน ดูอบอุ่น
-ไม่ชอบถูกเปรียบเทียบในสิ่งที่ตนเองควรมีแต่ยังทำได้ไม่สำเร็จ เช่น การเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี
ทุกคนอยากเป็นคนสำคัญ จึงไม่ควร วิจารณ์ ติ ตำหนิ บ่น ซึ่งกันและกัน
ระมัดระวังความหวังดี หรือเจตนาดี แต่การกระทำผิด ที่อาจไปทำร้ายจิตใจของอีกฝ่าย
ลึกๆแล้วทุกคนมีความรู้สึก กลัว ลังเล ไม่มั่นใจ อยู่แล้ว อย่าไปเติมความรู้สึกเหล่านั้นให้ใคร
ระวัง ความหวังดี ที่สื่อออกมาในเชิงลบ ที่อีกฝ่ายอาจมองว่า ไม่รัก ไม่ชอบ หรือ เกลียด เค้าหรือเปล่า
สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้น้ำเสียงที่สุภาพ เต็มไปด้วยความรัก ความหวังดี คำชื่นชมยินดี ที่น่าฟัง แล้วคนที่ได้ยินได้ฟัง เค้าจะมีพลังกำลังใจ มีความรู้สึกที่อยากจะทำสิ่งดีๆให้ อยากทำในสิ่งที่คนพูดต้องการ
ถ้ารักเค้าก็ต้องยอมรับในความเป็นตัวตนของเค้า และคอยเป็นกำลังใจให้กัน
ทุกปัญหาของความรักความสัมพันธ์ของเรา เรามีส่วนร่วมในความผิดพลาดของปัญหานั้นด้วยเสมอ เรามีส่วนร่วมในการที่จะต้องร่วมแก้ไขปัญหาไปด้วยกัน อย่าปล่อยให้ใครต้องแก้ไขเองด้วยตัวคนเดียว
โดยพื้นฐานชีวิตของคนหนึ่งคน มีความกลัวที่ส่งผลให้มีความเห็นแก่ตัวของตนเองอยู่แล้ว เพื่อให้ชีวิตของคนคนนั้นสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้อย่างปลอดภัย อย่าปล่อยให้ความเห็นแก่ตัวของเรา มาทำให้เรามองข้ามความดีของเค้าที่ทำให้เรามาโดยตลอด แต่เรากลับมองไม่เห็นเอง
วิธีการกลับพื้นคืนความรักให้กับชีวิตคู่
1.หวนระลึกถึงภาพความทรงจำ เมื่อครั้งแรกที่ได้มีความรักให้แก่กัน ที่หวานชื่น ว่าเรารักกันได้ยังไง
2.มองหาจุดดีๆของกันและกัน ว่าที่ผ่านมาเรามีอะไรดีๆให้กันบ้าง มีอะไรที่ขาดหายไปหรือมองข้ามไป
3.ไม่มีคำว่าสายไม่มีคำว่าทำไม่ได้ไม่มีคำว่าเกินจะเยี่ยวยา เพราะคำว่ารักมีความเป็นไปได้เสมอ ให้โอกาสแก่ความรัก ได้มีความสุขในการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เปิดใจ เข้าใจ และให้อภัยซึ่งกันและกัน
หากมีใครมาพูดบ่นว่ากล่าว ตำหนิติเตือนเราด้วยความหวังดี แต่การกระทำนั้นเราอาจไม่ชอบนัก
ก็ขอให้ปรับความเข้าใจเสียใหม่ ว่าที่เค้าทำอยู่เพราะความรัก ความหวังดี ทำความเข้าใจถึงเจตนาก่อน
แล้วจึงพูดแจ้งบอกให้อีกฝ่ายที่พูดว่าเราอยู่ได้สบายใจขึ้น ด้วยการกล่าว ขอบคุณ ชื่นชม ที่หวังดี แล้วเราจะพยายามพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเท่าที่จะทำได้ ขอให้เข้าใจ เราทำดีที่สุดแล้ว ต้องขอโทษด้วย
ที่ทำให้ผิดหวัง ขอบคุณที่หวังดี หากมีคำแนะนำหรือต้องการให้ทำอะไรให้ก็ขอให้บอก เราจะทำให้
เค้าจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้น และเข้าใจเรามากยิ่งขึ้นได้ โดยทุกอย่างต้องปรับให้เหมาะตามสถานการณ์
และย้ำเสมอว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะยังรักกันอยู่ ชีวิตคู่ของเราจะยังรักกันอยู่เสมอ
อย่าปล่อยให้เหตุผลของคำว่าใครถูกใครผิด ใครแพ้ใครชนะ เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตคู่ เพราะชีวิตคู่คือชีวิตเดียวกัน เราต้องผ่านมันไปด้วยกัน อย่าเปิดโอกาสกับคำว่า "เราเลิกกันดีไหม" คำว่า "เลิกกัน" ต้องไม่มี หากเรายังรักกันอยู่ เราต้องช่วยกันและไม่ทำร้ายความรักของกันและกัน ต้องผ่านมันไปด้วยกัน
แต่ถ้าหากว่าความรักครั้งนี้ดูแล้วไม่มีความหวัง ไม่มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นชีวิตคู่ด้วยกันได้อีก ไม่ได้มีความรักความหวังดีให้กันและกันอีกต่อไปแล้ว เราก็ต้องยอมรับและปล่อยให้ผ่านไป แล้วจงอยู่กับปัจจุบันที่ชีวิตของเราต้องมีความสุขได้ด้วยตัวเราเอง ความรักไม่เคยทำร้ายใคร สิ่งที่ทำร้ายเป็นเพียงความผิดหวังจากความรัก เพราะความคาดหวังที่เกินความเป็นจริง ชีวิตคู่ที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพียงเพื่อได้เรียนรู้ในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ชีวิตคู่จะเติบโตยั่งยืนได้ ด้วยการเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น