วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2562

5 วิธีทางจิตวิทยาที่ใช้ได้ผลจนไม่น่าเชื่อ ภาค 1

5 วิธีทางจิตวิทยาที่ใช้ได้ผลจนไม่น่าเชื่อ ภาค 1

1. คุณเคยรู้สึกว่ากำลังมีใครบางคนกำลังจองมองคุณอยู่หรือไม่
แล้วคุณจะทำอย่างไร หากว่าคุณอยากที่จะรู้ว่ามีใครกำลังมองคุณอยู่
คุณจะหันไปมองเลยทันที ก็กลัวว่าเค้าจะรู้ตัว
ลองทำวิธีนี้ดูสิ แล้วคุณจะแปลกใจ ว่ามันใช้ได้ผล
หากคุณกำลังคิดว่ามีใครบางคนกำลังจองมองดูคุณอยู่ ให้คุณลองทำท่าหาว อ้าปากกว้างๆ
หาวเหมือนคุณกำลังง่วงมาก แล้วหันไปมองดูรอบๆตัวคุณ แต่ไม่ได้มองว่าใครกำลังมองคุณอยู่นะ
แต่ให้ดูว่ามีใครบางคนกำลังหาวเหมือนคุณอยู่บ้าง
ถ้ามีใครกำลังหาวอยู่ แสดงว่าเค้าคนนั้นกำลังมองคุณอยู่นั้นเอง
วิธีนี้เจ๋งไหมหละ วิทยาศาสตว์จิตวิทยา เรียกว่า การหาวติดต่อกันได้ ที่ใช้ได้ผลจนไม่น่าเชื่อ ลองดูนะ

2.คุณเคยรู้สึกไม่ดีเวลาที่ทะเลาะกับใครบางคนที่คุณรักและไม่อยากเสียมิตรภาพไป
ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะกับเพื่อน ทะเลาะกับแฟน หรือแม้แต่ ทะเลาะกับพ่อแม่
แล้วเวลาทะเลาะกันคุณก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ทุกอย่างดีขึ้น เพราะจะพูดมากก็หาว่าเถียง
จะนิ่งเงียบก็หาว่าไม่สนใจ ถ้าไม่อยากดูทำอะไรก็ผิดไปเสียหมด
ลองใช้วิธีการนี้ดูสิ แล้วคุณจะแปลกใจ ว่ามันใช้ได้ผล
หากคุณกำลังมีปัญหาหรือคิดว่าต้องพูดคุยสนทนากับคู่สนทนาที่อารมณ์กำลังไม่ค่อยจะดีนัก
ให้คุณลองชวนเค้าไปหาอะไรกินกันระหว่างที่จะต้องพูดคุย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารที่แสนอร่อยที่เค้าชอบ หรือร้านขนมของหวาน หรือเครื่องดื่มเย็นๆที่เค้าชอบ ให้เค้าได้กินไปด้วยคุยกับคุณไปด้วย
สมองของเค้าที่กำลังจะโกรธคุณ ก็จะถูกให้ทำงานได้น้อยลงน้อยลง เมื่อต้องเจอกับอาหารอร่อยที่อยู่ตรงหน้า พอเค้าได้กินไปสักพัก อารมณ์ที่ร้อนๆก็จะเย็นลง ผ่อนคลายลง จนคุณคาดไม่ถึง
ในทางธุรกิจเวลาที่จะนัดเจรจาทางธุรกิจที่มีเรื่องต้องให้คู่เจรจาตัดสินใจ ก็มักจะใช้วิธีนี้กันด้วยนะ
วิธีนี้เจ๋งไหมหละ วิทยาศาสตว์จิตวิทยา เรียกว่า อร่อยมาก่อนโกรธ ที่ใช้ได้ผลจนไม่น่าเชื่อ ลองดูนะ

3.คุณเคยรู้สึกไหมเวลาที่คุณถามคำถามกับใคร แล้วเค้าไม่ค่อยจะตอบอย่างที่คุณต้องการ
หลายครั้งที่คุณถามไป 10 แต่เค้าตอบกลับมาแค่ 1 จริงๆคุณอยากจะให้เค้าพูดมากกว่านั้น
ลองทำวิธีนี้ดูสิ แล้วคุณจะแปลกใจ ว่ามันใช้ได้ผล
หากคุณกำลังต้องการถามคำถามกับใคร และอยากให้เค้าพูดออกมาเยอะกว่าปกติ
ให้คุณลองเลือกถามคำถามที่เข้าใจง่าย สั้นๆแต่ได้ใจความ และที่สำคัญถามจบให้คุณเงียบทันที
ไม่ว่าในหัวของคุณกำลังคิดอะไร หรืออยากจะพูดอยากจะถามอะไรอีก คุณก็ต้องห้ามพูดต่อ
เมื่อการสนทนาระหว่างคุณกับคู่สนทนาของคุณ เกิดอาการหยุดนิ่งเงียบไปทั้งคู่ ไม่พูดไม่ถามต่อ
ความเงียบ นี้แหละ คือกุญแจสำคัญที่สุด ที่จะสั่งการให้อีกฝ่ายทนไม่ไหวโดยไม่รู้ตัว ไม่อยากให้เงียบ
เมื่อคุณถามไป แล้วคุณหยุดรอเค้าอยู่ เป็นหน้าที่ของคู่สนทนาของคุณที่จะเริ่มพูดตอบคำถามของคุณ
เค้าจะเริ่มรู้ตัวว่า ต้องพูดอะไรสักอย่าง เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ความเงียบ หยุดความเงียบนี่ที
จากนั้น เมื่อเค้าเริ่มพูด แล้วคุณก็ยังเงียบอีก เหมือนรอฟังเค้าอยู่ เค้าก็จะพูดต่อไปเรื่อยๆ
คุณก็จะได้ฟังเค้าพูดมากยิ่งขึ้น โดยที่ต่างคนต่างไม่รู้ตัวว่า กำลังเป็นผู้พูดและผู้ฟังที่ดีให้แก่กันอยู่
แต่ถ้าเมื่อไรที่คุณจะเริ่มพูดเยอะมากขึ้น เค้าจะกลับมาเป็นคนฟังอีกครั้งหนึ่งได้ทันทีเช่นกัน
วิธีนี้เจ๋งไหมหละ วิทยาศาสตว์จิตวิทยา เรียกว่า เงียบเพื่อได้คำตอบ ที่ใช้ได้ผลจนไม่น่าเชื่อ ลองดูนะ

4. คุณเคยรู็สึกไหมว่าอยากให้คนที่คุณพึ่งรู้จักพูดคุยกันแล้วอยากให้เค้าจดจำชื่อคุณได้
อย่างเช่น เวลาที่คุณไปสมัครงานหรือสอบสัมภาษณ์งาน คุณก็อยากให้เค้านึกถึงชื่อคุณเวลาคัดเลือก
แต่หลายๆครั้ง แม้แต่ตัวเราเองก็มักจะหลงลืมชื่อคน หรือสิ่งที่สำคัญแต่ก็เพื่อบ่อยๆ เพราะอะไรนะ
ลองทำวิธีนี้ดูสิ แล้วคุณจะแปลกใจ ว่ามันใช้ได้ผล
ผู้คนมักจะจดจำสิ่งต่างๆมากมายพร้อมกันไม่ค่อยได้ จึงมักที่จะเลือกที่จะจดจำบางสิ่งบางอย่างเท่านั้น
และโดยทั่วไป สิ่งแรก และสิ่งสุดท้าย มักเป็นสิ่งที่น่าจดจำได้ง่ายกว่า สิ่งที่อยู่ระหว่างนั้น
หากยิ่งสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญพิเศษอะไร แต่อย่างน้อยถ้าเป็น สิ่งแรก หรือ สิ่งสุดท้าย ก็ยังพอจำได้บ้าง
ดังนั้น เวลาที่คุณอยากให้ใครบางคนจดจำชื่อคุณได้ คุณก็ค่อยพูดชื่อของคุณบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเริ่มต้นการสนทนาที่ได้พบเจอกัน อย่างที่คนทั่วไปมักที่จะเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวนั้นเอง และโดยทั่วไปการพูดแค่เพียงครั้งเดียวในตอนแรกนั้นยังไม่พอ เพราะสมองของเค้าอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับชื่อของคุณ ยิ่งชื่อที่เรียกได้ยากด้วยแล้ว คุณจำเป็นที่จะต้องเชื่อมโยงกับสิ่งที่เค้าจะจดจำได้ง่ายขึ้น และเทคนิคการช่วยจำที่น่ารักๆ ผ่อนคลาย ก็จะช่วยให้เค้าจดจำคุณได้ขึ้นใจเลยหล่ะ แล้วอย่าลืมตอนท้ายก่อนที่จะจากกันไป ก็ย้ำชื่อคุณอีกครั้งด้วยนะ ยิ่งถ้าเค้าอารมณ์ดีจะยิ่งจดจำคุณได้เป็นอย่างดีแน่นอน
วิธีนี้เจ๋งไหมหละ วิทยาศาสตว์จิตวิทยา เรียกว่า เปิดปิดให้จดจำ ที่ใช้ได้ผลจนไม่น่าเชื่อ ลองดูนะ

5. คุณเคยรู้สึกไหมว่าคุณสนิทกับเพื่อนที่เคยเล่นด้วยกันตอนเด็กๆมากกว่าเพื่อนร่วมงาน
หรือ หากคุณกำลังจะเริ่มต้นคบกับใครสักคน คุณอยากที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีรู้จักกันมากขึ้นเร็วขึ้น
ลองทำวิธีนี้ดูสิ แล้วคุณจะแปลกใจ ว่ามันใช้ได้ผล
การมีกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกัน จะยิ่งทำให้ผูกพันธ์นั้นดีขึ้น หรือช่วยให้รู้จักสนิทสนมกันได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้น
ดังนั้นเวลาที่คุณเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ๆ อย่างเช่น การนัดออกเดท แทนที่คุณจะนัดไปกินข้าวหรือดูหนังที่คุณมีช่วงเวลาที่ใช้ด้วยกันเพียงนิดเดียว คุณลองเพิ่มระยะเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันเพื่อที่จะได้มีประสบการณ์ต่างๆด้วยกันมากขึ้น คุณอาจจะนัดไปทำกิจกรรมที่คุณทั้งสองคนชอบหรืออาจจะชอบ ไม่ว่าจะไปทำกิจกรรมจิตอาสา ไปเที่ยวสวนสนุก เดินป่า ปีนเขา ช็อปปิ้ง ก็ได้นะ
เพราะเมื่อคุณได้ทำกิจกรรมที่ได้ใช้ทั้งร่างกาย สมองจะปล่อยสารอะดรีนาลีน สารแห่งความสุข ออกมา ทำให้คุณทั้งสองคนได้มีช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยกัน และจะส่งผลให้เกิด สารเอนโดรฟิน สารแห่งพลังงาน ออกมาด้วย ยิ่งทำให้คุณทั้งสองคนมีพละกำลังที่จะอยากทำกิจกรรมที่สนุกๆด้วยกันอย่างนี้อีก
และที่สำคัญ วิธีการนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้กับแฟนเท่านั้น ยังสามารถนำมาปรับใช้กับเพื่อน กับคนที่คุณรัก คนในครอบครัว หรือคนในองค์กรของคุณ ก็ยังได้ อย่างที่หลายๆบริษัท มักจะจัดกิจกรรมสรรทนาการกันเป็นประจำกันทุกปี ก็เพราะสิ่งนี้นี่แหละ ที่จะช่วยสร้างสายสัมพันธ์ความผูกพันธ์ของคนในองค์กรได้
แต่ๆ อย่าลืมว่า ความสุข ก็มีช่วงเวลา มาได้ก็หายได้ จึงจำเป็นที่คุณจะต้องคอยเติมประสบการณ์ดีๆใหม่ๆให้แก่กันอยู่เสมอ อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน จนลืมวันเวลาดีๆให้กันนะ
วิธีนี้เจ๋งไหมหละ วิทยาศาสตว์จิตวิทยา เรียกว่า ทำให้รัก ที่ใช้ได้ผลจนไม่น่าเชื่อ ลองดูนะ

วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2562

5 ภาษารักของมนุษย์ แต่ละคนไม่เหมือนและไม่เท่ากัน

5 ภาษารักของมนุษย์ แต่ละคนไม่เหมือนและไม่เท่ากัน
      ภาษาความรักของแต่ละคนไม่เหมือนกันและมากน้อยไม่เท่ากัน
เพราะความเข้าใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อาจจะเป็นความแตกต่างด้านภาษาพูด ด้านภาษากาย และประสบการณ์ที่ต่างออกไป อีกฝ่ายอยากให้เราบอกรักเค้าให้ความรักแก่เค้าด้วยรูปแบบวิธีการอย่างไร ต้องสื่อสารกันให้ชัดเจนให้เข้าใจได้ตรงกัน แม้คนอื่นจะไม่เข้าใจ แต่คู่รักเราต้องเข้าใจตรงกัน
                                              ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ความรัก
5 ภาษารักของมนุษย์
1.คำพูด บอกรัก บอกความคิดถึง บอกความห่วงใย
2.ดูแลใส่ใจ บริการ ให้ความสะดวกสบาย
3.มีเวลาให้ เป็นช่วงเวลาที่มีคุณภาพ ความสุขด้วยกัน สร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกัน
4.มีสิ่งของ ของขวัญ ของฝาก จับต้องได้ ใช้งานหรือกินได้ เก็บเป็นความทรงจำดีๆได้
5.สัมผัสทางร่างกาย จับมือ โอบไหล่ ลูบผม กอด หอมแก้ม แสดงความรักต่อกันอย่างใกล้ชิด

                                       ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ความรัก

ตัวอย่าง
       คู่ชีวิตที่มีเชื้อชาติมีประเพณีวัฒนธรรมและการใช้ภาษาสื่อสารที่แตกต่างกัน การที่คนหนึ่งพูดและบอกรักในภาษาตนเองแบบประเพณีวัฒนธรรมของตนเองได้อย่างดีสมบูรณ์มาก แต่หากอีกฝ่ายหนึ่งเค้าไม่รู้และไม่เข้าใจไม่ได้รู้สึกถึงคุณค่าที่คนนั้นพยายามสื่อถึง คุณค่าที่แท้จริงของการบอกรักนั้นก็อาจจะไม่สมบูรณ์ และยิ่งไม่ได้รับการบอกรักในแบบอีกอีกฝ่ายหนึ่งต้องการและเฝ้ารอคอยอยู่เป็นเวลานาน การพยายามบอกรักในแบบของตนเองตลอดเวลาก็อาจจะเหมือนกับการไม่เคยบอกรักเลยสักครั้งเดียวในสายตาของอีกฝ่าย จะดีกว่าไหมหากเรารู้ว่าภาษาและประเพณีวัฒนธรรมของอีกฝ่ายหนึ่งเค้าต้องการให้บอกรักอย่างไรที่มีคุณค่าและมีความหมายสำหรับเค้า แม้เราเคยทำแค่เพียงครั้งเดียว แต่สิ่งนั้นอาจจะมีความหมายและอยู่ในความทรงจำของเค้าไปตลอดทั้งชีวิตก็เป็นได้

     

ชีวิตคู่ จะปังหรือจะพัง ขึ้นอยู่กับอะไร

ชีวิตคู่ จะปังหรือจะพัง ขึ้นอยู่กับอะไร

       ชีวิตคู่ของคนสองคน จะปังหรือจะพัง เริ่มต้นที่ความรักของคน 2 คน ซึ่งในยุคปัจจุบัน เราต้องยอมรับว่า ความรักของคน 2 คนนั้น ไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่เรื่องเพศ ชายกับหญิง อีกต่อไปแล้ว และไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศสภาพร่างกายภายนอกด้วยเช่นกัน แต่หากเป็นความรู้สึกความสัมพันธ์ภายในจิตใจที่มีให้แก่กัน และที่สำคัญหากชีวิตคู่นั้นได้อยู่เคียงคู่กันตราบช่วงชีวิตที่มีอยู่ก็คงจะมีความสุขอบอุ่นไม่น้อย

      การมีชีวิตคู่ที่ดี ไม่มีเรื่องทะเลาะกัน เข้าอกเข้าใจกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทุกคนรู้และเข้าใจ แต่เพราะเหตุใดถึงยังมีปัญหาชีวิตคู่กันอยู่ มีเรื่องให้ทะเลาะกันอยู่เรื่อย เสียใจ น้อยใจ เข้าใจผิดกันตลอด
ทั้งที่แท้จริงแล้ว ณ วันที่คน 2 คน ได้ตกลงใจเป็นคนรักกัน ต้องการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน วันนั้นถือเป็นวันที่ทั้งคู่เป็นคนที่สมบูรณ์พร้อมสำหรับกันและกันแล้ว ทั้งคู่ยอมรับซึ่งกันและกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อดีหรือข้อเสีย ที่ทุกคนต่างก็มีความสมบูรณ์และไม่สมบูรณ์กันทุกคน และวันนั้นเองเป็นวันที่ทั้งคู่เลือกตัดสินใจแล้วว่า เราจะใช้ชีวิตอยู่คู่กัน เรามีความเชื่อมั่นไว้เนื้อเชื่อใจให้แก่กันอย่างเต็มที่แล้ว ดังนั้นระดับคะแนนความรักที่ให้กันได้ถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทั้งคู่คือตัวแทนความสมบูรณ์แบบของความรักให้กันและกัน ที่จะต้องยึดมั่นดูแลใส่ใจรักษาความรักระหว่างกันให้มั่นคงยั่งยืนตลอดไป ยืนหยัดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งคู่จะมีหลักหมุดของความรักร่วมกัน ที่จะก้าวข้ามผ่านทุกปัญหาและอุปสรรคไปด้วยกัน จะปังหรือจะพังอยู่ที่2คน

      ปัญหาในชีวิตคู่ที่พบได้บ่อย ตามระดับความรุนแรงมีอะไรกันบ้าง
- ทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน ไม่ยอมให้กัน อารมณ์เสียใส่กัน แม้เพียงเรื่องเล็กน้อย
- เมื่อทะเลาะกันก็ไม่พูดคุยกัน บ่อยปัญหาให้ค้างคาอยู่ภายในใจ รอวันที่จะระเบิดออกมา
- เมื่ออยู่ด้วยกันเริ่มไม่มีความสุข เริ่มเปิดโอกาศแห่งการเลิกลา ด้วยการแยกกันอยู่ แยกกันใช้ชีวิต
- เมื่อแยกกันอยู่ ความผูกพันธ์ทางร่างกายและจิตใจยิ่งลดลง เพราะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
- เมื่อไม่ได้มีการแสดงความรักต่อกัน อีกฝ่ายอาจจะไปมีความสัมพันธ์กันคนอื่น หรือยินดีที่จะอยู่คนเดียว


อารมณ์ความรู้สึกของฝ่ายหญิง
-จะรู้สึกมีความต้องการในสิ่งที่อยากได้รับหรือเคยได้รับ อยู่เสมอตลอดชีวิต รู้สึกว่าไม่พอโดยไม่รู้ตัว
-มีความต้องการอยากเป็นที่รัก เป็นคนที่ถูกรัก ให้ความสำคัญอยู่เสมอ และต้องแสดงออกให้รู้
-มีความกลัวเป็นของตนเอง ยิ่งเคยมีประสบการณ์ความกลัวกับเรื่องใด ก็จะกลัวและกังวลเป็นพิเศษ
-ฝ่ายหญิงจะพ่ายแพ้ต่อความเป็นชาย ที่มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ จริตเล็กๆของผู้ชายมีเสน่ห์เสมอ
-ต้องการกำลังใจ ต้องการคำชื่นชม ด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่หวังดี อ่อนโยน ดูอบอุ่น
-ไม่ชอบถูกเปรียบเทียบในสิ่งที่ตนเองควรมีแต่ยังทำได้ไม่สำเร็จ เช่น การลดความอ้วน

อารมณ์ความรู้สึกของฝ่ายชาย
-จะรู้สึกมีความต้องการอยากจะเป็นผู้นำ อยากมีความภาคภูมิใจในตนเอง ว่าดูแลครอบครัวได้ อยากทำใหดี แต่เมื่อทำได้ไม่ดีพอ ก็จะรู้สึกโทษตนเอง ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่ส่งผลดีต่อมาในอนาคตได้
-มีความต้องการอยากเป็นหัวหน้าครอบครัว มีคนคอยดูแลความเรียบร้อยเรื่องต่างๆให้ จะรู้สึกดี
-ทำไมเรายังไม่เคยดีพอสำหรับอีกฝ่ายเลย
- ฝ่ายชายจะพ่ายแพ้ต่อความเป็นผู้หญิง ที่มีความน่ารัก ขี้อ้อน จริตเล็กๆของผู้หญิงมีเสน่ห์เสมอ
-ต้องการกำลังใจ ต้องการคำชื่นชม ด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่หวังดี อ่อนโยน ดูอบอุ่น
-ไม่ชอบถูกเปรียบเทียบในสิ่งที่ตนเองควรมีแต่ยังทำได้ไม่สำเร็จ เช่น การเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี

     ทุกคนอยากเป็นคนสำคัญ จึงไม่ควร วิจารณ์ ติ ตำหนิ บ่น ซึ่งกันและกัน
ระมัดระวังความหวังดี หรือเจตนาดี แต่การกระทำผิด ที่อาจไปทำร้ายจิตใจของอีกฝ่าย
ลึกๆแล้วทุกคนมีความรู้สึก กลัว ลังเล ไม่มั่นใจ อยู่แล้ว อย่าไปเติมความรู้สึกเหล่านั้นให้ใคร

     ระวัง ความหวังดี ที่สื่อออกมาในเชิงลบ ที่อีกฝ่ายอาจมองว่า ไม่รัก ไม่ชอบ หรือ เกลียด เค้าหรือเปล่า
สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้น้ำเสียงที่สุภาพ เต็มไปด้วยความรัก ความหวังดี คำชื่นชมยินดี ที่น่าฟัง แล้วคนที่ได้ยินได้ฟัง เค้าจะมีพลังกำลังใจ มีความรู้สึกที่อยากจะทำสิ่งดีๆให้ อยากทำในสิ่งที่คนพูดต้องการ
ถ้ารักเค้าก็ต้องยอมรับในความเป็นตัวตนของเค้า และคอยเป็นกำลังใจให้กัน

    ทุกปัญหาของความรักความสัมพันธ์ของเรา เรามีส่วนร่วมในความผิดพลาดของปัญหานั้นด้วยเสมอ เรามีส่วนร่วมในการที่จะต้องร่วมแก้ไขปัญหาไปด้วยกัน อย่าปล่อยให้ใครต้องแก้ไขเองด้วยตัวคนเดียว

    โดยพื้นฐานชีวิตของคนหนึ่งคน มีความกลัวที่ส่งผลให้มีความเห็นแก่ตัวของตนเองอยู่แล้ว เพื่อให้ชีวิตของคนคนนั้นสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้อย่างปลอดภัย อย่าปล่อยให้ความเห็นแก่ตัวของเรา มาทำให้เรามองข้ามความดีของเค้าที่ทำให้เรามาโดยตลอด แต่เรากลับมองไม่เห็นเอง 

วิธีการกลับพื้นคืนความรักให้กับชีวิตคู่
1.หวนระลึกถึงภาพความทรงจำ เมื่อครั้งแรกที่ได้มีความรักให้แก่กัน ที่หวานชื่น ว่าเรารักกันได้ยังไง
2.มองหาจุดดีๆของกันและกัน ว่าที่ผ่านมาเรามีอะไรดีๆให้กันบ้าง มีอะไรที่ขาดหายไปหรือมองข้ามไป
3.ไม่มีคำว่าสายไม่มีคำว่าทำไม่ได้ไม่มีคำว่าเกินจะเยี่ยวยา เพราะคำว่ารักมีความเป็นไปได้เสมอ ให้โอกาสแก่ความรัก ได้มีความสุขในการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เปิดใจ เข้าใจ และให้อภัยซึ่งกันและกัน

       หากมีใครมาพูดบ่นว่ากล่าว ตำหนิติเตือนเราด้วยความหวังดี แต่การกระทำนั้นเราอาจไม่ชอบนัก
ก็ขอให้ปรับความเข้าใจเสียใหม่ ว่าที่เค้าทำอยู่เพราะความรัก ความหวังดี ทำความเข้าใจถึงเจตนาก่อน
แล้วจึงพูดแจ้งบอกให้อีกฝ่ายที่พูดว่าเราอยู่ได้สบายใจขึ้น ด้วยการกล่าว ขอบคุณ ชื่นชม ที่หวังดี แล้วเราจะพยายามพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเท่าที่จะทำได้ ขอให้เข้าใจ เราทำดีที่สุดแล้ว ต้องขอโทษด้วย
ที่ทำให้ผิดหวัง ขอบคุณที่หวังดี หากมีคำแนะนำหรือต้องการให้ทำอะไรให้ก็ขอให้บอก เราจะทำให้
เค้าจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้น และเข้าใจเรามากยิ่งขึ้นได้ โดยทุกอย่างต้องปรับให้เหมาะตามสถานการณ์
และย้ำเสมอว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะยังรักกันอยู่ ชีวิตคู่ของเราจะยังรักกันอยู่เสมอ
       อย่าปล่อยให้เหตุผลของคำว่าใครถูกใครผิด ใครแพ้ใครชนะ เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตคู่ เพราะชีวิตคู่คือชีวิตเดียวกัน เราต้องผ่านมันไปด้วยกัน อย่าเปิดโอกาสกับคำว่า "เราเลิกกันดีไหม" คำว่า "เลิกกัน" ต้องไม่มี หากเรายังรักกันอยู่ เราต้องช่วยกันและไม่ทำร้ายความรักของกันและกัน ต้องผ่านมันไปด้วยกัน
      แต่ถ้าหากว่าความรักครั้งนี้ดูแล้วไม่มีความหวัง ไม่มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นชีวิตคู่ด้วยกันได้อีก ไม่ได้มีความรักความหวังดีให้กันและกันอีกต่อไปแล้ว เราก็ต้องยอมรับและปล่อยให้ผ่านไป แล้วจงอยู่กับปัจจุบันที่ชีวิตของเราต้องมีความสุขได้ด้วยตัวเราเอง ความรักไม่เคยทำร้ายใคร สิ่งที่ทำร้ายเป็นเพียงความผิดหวังจากความรัก เพราะความคาดหวังที่เกินความเป็นจริง ชีวิตคู่ที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพียงเพื่อได้เรียนรู้ในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ชีวิตคู่จะเติบโตยั่งยืนได้ ด้วยการเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข













6 ความต้องการของมนุษย์ ที่มีผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจลงมือทำ

6 ความต้องการของมนุษย์ ที่มีผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจลงมือทำ
          หากเราอยากที่จะเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์ที่กำลังแสดงออกมา หรือ เลือกที่ตัดสินใจทำอะไรบางสิ่งบางอย่าง ทั้งที่ในสายตาคนรอบข้างอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรือ บางคนเลือกทำแม้รู้ทั้งรู้ว่าไม่ดี พฤติกรรมและนิสัยบางอย่างที่อยากจะเปลี่ยนแปลงแต่ก็เปลี่ยนแปลงตนเองไม่ได้สักที ทุกผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ต่างก็มีเหตุผลและที่มา ที่ส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่ปรากฏให้เราได้เห็น เพื่อเรียนรู้และเข้าใจ และเมื่อเรารู้และเข้าใจทั้งตนเองและผู้อื่นได้มากขึ้น เราก็จะมีความสุขและอยู่กับมันได้ดีขึ้น ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดีขึ้น และส่งผลให้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในแบบอย่างที่คุณต้องการได้อย่างแท้จริง

ความต้องการหรืออารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
1. Stable ความมั่นใจ แน่ใจ มั่นคง ปลอดภัย สบายใจ ผ่อนคลาย มีข้อมูล รู้และเข้าใจ ชัดเจนเห็นภาพ
2. Enjoy ความสนุก ตื่นเต้น ท้าทาย แปลกใหม่ หลากหลาย  มีชีวิตชีวา สีสันในชีวิต สดชื่น มีพลัง
3. Important ความเป็นคนสำคัญ มีตัวตน ใส่ใจ เอาใจใส่ เป็นที่รู้จัก ความภาคภูมิใจ การยอมรับนับถือ
4. Relation ความสัมพันธ์ ความรัก ความห่วงใย ความอบอุ่น มิตรภาพ พรรคพวก เพื่อน สังคม ชุมชน
5. Success + ความสำเร็จ เจริญ เติบโต ความก้าวหน้า ได้เรียนรู้ ฝึกฝน พัฒนาทักษะ สะสมความสำเร็จ
6. Support + ความช่วยเหลือ การส่งเสริม สนับสนุน แบ่งปัน เป็นประโยชน์ต่อผู้คน เป็นผู้ให้ ทำความดี

        เมื่อเราได้รับการตอบสนองต่อความต้องการ ที่มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของเรา จะส่งผลให้เรามีความสุข แต่เมื่อใดที่เราไม่ได้รับการตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้ กลับจะทำให้เรารู้สึกทุกข์
       ดังนั้นการทำความเข้าใจในพฤติกรรมของเราหรือของผู้อื่น ว่าเพราะเหตุใดมนุษย์ถึงยังคงทำพฤติกรรมนั้นอยู่ พฤติกรรมนั้นตอบสนองความต้องการด้านใดให้กับเค้าบ้าง และส่งผลให้เค้ารู้สึกกับตนเองและผู้อื่นอย่างไร

ประโยชน์ของการทำความเข้าใจ พฤติกรรมของมนุษย์จากความต้องการพื้นฐานทั้ง6นี้คือ
1.ช่วยให้เราเกิดการยอมรับสิ่งที่แต่ละคนเป็นและต้องเผชิญอยู่ว่าระดับความต้องการแต่ละคนไม่เท่ากัน
2.ช่วยให้เรารู้ที่มาที่ไปของพฤติกรรมนั้นๆว่า พฤติกรรมนั้นส่งผลดีอย่างไรถึงยังทำอยู่
3.ช่วยให้เราตระหนักถึงผลลัพธ์ของพฤติกรรม ว่าหากยังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปจะเกิดผลเสียอะไรขึ้น
4.ช่วยให้เรามีความพยายามออกแบบพฤติกรรมใหม่ ที่ตอบสนองความต้องการได้ดีกว่าพฤติกรรมเดิม
5.ช่วยให้เราได้รับผลลัพธ์ในแบบที่เราต้องการ ด้วยพฤติกรรมที่ตอบสนองความต้องการของเราแท้จริง

ตัวอย่าง 
    กรณีศึกษา ว่าทำไมมนุษย์ถึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

เด็กชอบเล่นเกมส์   
- ได้ความมั่นใจ สบายใจ ผ่อนคลาย ปลอดภัยในพื้นที่ของตนเอง เคยเล่นชอบเล่นรู้ว่าเล่นยังไง
- ได้ความสนุก ตื่นเต้น มีพลัง เมามัน ท้าทาย ได้ลองเล่นด่านใหม่ๆ ฉากใหม่ๆ เกมส์ใหม่ๆ
- ได้ความสัมพันธ์ เข้ากลุ่มเพื่อนได้ มีเพื่อนเล่น มีมิตรภาพจากในเกมส์ มีพรรคมีพวก มีเกมส์เป็นเพื่อน
- ได้ความเป็นคนสำคัญ ภูมิใจ เก่ง เท่ห์ ได้รับการยอมรับจากเกมส์ ผ่านด่านได้ ชนะได้คะแนน
- แต่อาจจะไม่ได้ทำประโยชน์ให้กับคนรอบข้าง พอคนอื่นมาเห็น จึงอาจจะมองว่าไม่ดี ไม่มีประโยชน์
- และไม่เห็นความสำเร็จจากการเล่นเกมส์ หรืออาจทำการบ้านยังไม่เสร็จก็เล่นแต่เกมส์
  ซึ่งหากเค้าสามารถทำประโยชน์ให้กับคนดูเกมส์ได้ สร้างรายได้ได้ สร้างความสำเร็จได้ แล้วนำเงินมาช่วยครอบครัวได้ ก็อาจจะได้รับการยอมรับได้ อย่างเช่น เกมส์เมอร์ที่ประสบความสำเร็จ

คนชอบเล่นมือถือ ติดโลก Social 
- ได้ความมั่นใจ สบายใจ ผ่อนคลาย ปลอดภัยในพื้นที่ของตนเอง ไม่ต้องเผชิญหน้ากับผู้คน
- ได้ความสนุก เมามัน ในการท่องโลก Social ดูข้อมูลใหม่ๆที่หลากหลายมากมายในอินเตอร์เน็ต
- ได้ความเป็นคนสำคัญ เวลามีคนกด like ให้ มีคนทักทาย รู้สึกมีตัวตนบนโลก Social
- ได้ความส่งเสริม การสนับสนุน จากการช่วยกดถูกใจกดติดตามให้คนอื่น รู้สึกเป็นผู้ให้ ได้ทำความดี
- แต่อาจจะไม่ได้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างที่อยู่ตรงหน้า เพราะกำลังก้มหน้าดูมือถืออยู่
และอาจจะไม่ได้สร้างผลงานจนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคนรอบข้างว่าทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจึงไม่ได้รับการยอมรับ หรือชื่นชม ยิ่งทำให้เค้าหนีออกจากโลกความจริงตรงหน้า ไปสู่โลกความจริงในมือถือได้
  ซึ่งหากเค้าสามารถบริหารจัดการช่วงเวลาการเล่นมือถือได้อย่างเหมาะสม ก็จะยังสามารถเชื่อมความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ เช่น เวลาพูดคุยกัน เวลากินข้าว เวลาประชุม เวลาที่ต้องสื่อสารกับผู้คน แล้วค่อยเล่นในช่วงเวลาที่เหมาะสม และสะสมผลงานจากการสร้างผลงานสร้างผลลัพธ์แห่งความสำเร็จเล็กๆ บนโลก Online ได้ เพราะใครจะไปรู้การที่เค้าก้มหน้าก้มตาอยู่กับมือถือ เค้าอาจกำลังสร้างรายได้สร้างอนาคตจากการขายของ Online อยู่ก็เป็นได้ เพราะในโลกยุคใหม่ มีอาชีพใหม่ๆที่สามารถหาเงินได้จากการเล่นมือถือได้ อย่างเช่น ขายของออนไลน์ ยูทูปเบอร์ และ บล็อกเกอร์ที่ประสบความสำเร็จ



#ความต้องการของมนุษย์
#6ความต้องการ
#6coreneeds
#พฤติกรรมมนุษย์